อนุทิน ย้ำฝ่ายตำรวจใช้กฎหมายควบคุมกัญชาเข้มงวด จับได้เลยหากพบ ประชาชน เสพกัญชาที่สาธารณะ มวนขายก็ห้าม เพราะถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความเป็นห่วงของสังคมไทยที่มีต่อการปลดล็อกกัญชา โดยมีเจตนาเพื่อใช้ทางการแพทย์ แต่กลับพบคนบางกลุ่มนำไปใช้เพื่อความบันเทิง ว่า
“มันมีการมวนขายกันใช่ไหม ขออย้ำว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
เพราะประกาศของกระของกระทรวงสาธารณสุขออกมาแล้ว ว่าห้ามสูบในที่สาธารณะ แล้วไปมวนสูบกันที่ถนนข้าวสารตรงนั้น มันผิดกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งผู้อำนวยการเขตพระนคร ก็ไปสั่งให้ห้ามขายโดยใช้กฎหมาย สรุปคือกฎหมายเรามีแล้ว ทั้งประกาศของกระทรวงสาธารณสุข กทม. กระทรวงมหาดไทย ประกาศของ ผบ.ทบ. นั่นคือกฎหมาย อะไรที่นอกเหนือจากนั้น เรียกว่าผิดกฎหมาย”
กระทรวงสาธารณสุขตรากฎหมายแล้ว หน่วยงานอื่นก็มีกฎหมาย แต่อย่างลืมว่าคนที่ตั้งใจจะทำผิดกฎหมาย เจ้าพนักงานของรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง ก็ต้องลงไปดูแล จะยกตัวอย่างในกระทรวงสาธารณสุข ถ้าพบเห็นการผลิตยาเถื่อน เจ้าหน้าที่ของ อย.เป็นเจ้าพนักงาน สามารถเข้าไปหยุดการกระทำ ดำเนินคดีได้ ส่วนเรื่องกัญชา เราไม่มีหน่วยงานของกระทรวงฯ ที่จะเข้าไปชาร์จ เข้าไปจับกุม ต้องให้ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าไปจัดการ ถ้ามีคนสูบกัญชาในที่สาธารณะ ควันพุ่งออกมาเลย ตำรวจเห็น จับได้ เพราะก่อให้เกิดความรำคาญ ซึ่งก็ตรงกับประกาศของกรมอนามัยแล้ว ถ้าเจ้าพนักงานเข้มข้น คนมันจะระมัดระวังในการใช้มากขึ้น จากนั้น ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงความกังวลว่าเด็กจะเสพกัญชาในโรงเรียน
นายอนุทิน กล่าวว่า ว่ากันตามกฎหมาย ประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ ห้ามใช้กัญชาในโรงเรียน ห้ามคนอายุตำกว่า 10 ปี ใช้กัญชา มันก็ชัดเจน ว่าเขาห้ามเด็กชัด แล้วไปสูบกัญชา แบบนั้นมันผิดแน่นอน การที่เด็กคนนั้น ถือกัญชาเข้าไป มีการผิดกฎหมายแล้ว เจ้าพนักงานต้องไปหาดูว่าเด็กได้มาจากไหน คนเอาให้ คนขายให้ คือผู้กระทำผิดกฎหมาย ตอนนี้ ก็ต้องหวังพึ่งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ท่านมีอำนาจแล้ว กฎหมายออกมาควบคุม และให้ท่านเข้าไปจัดการได้
นโยบายกัญชา มันเป็นนโยบายเสรีทางการแพทย์ มันเข้ามาแล้ว ต้องทำ เพราะตอนร่วมรัฐบาล ก็เอานโยบายนี้ไปทำเป็นนโยบายรัฐบาลด้วย ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านเองก็ถามเราหลายครั้ง ว่าจะทำอย่างไร ต้องเอาหมอ ผู้เชี่ยวชาญ ไปอธิบาย จนกลายเป็นนโยบายเร่ง เรื่องของการปลดล็อกกัญชา คนที่เซ็นคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่คนที่พิจารณาผ่านเข้ามาคือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีรองนายกรัฐมนตรี ท่านวิษณุ เครืองาม เป็นประธาน ในนามนายกฯ ท่านชงเรื่องขึ้นมา เราก็ต้องเซ็น เรื่องนี้ เป็นนโยบายเร่งด่วน ยังใช้เวลาตั้ง 3 ปี ตอนนั้น คณะกรรมการ ปปส. เขาก็มีหลายหน่วยงานมาช่วยกันศึกษา เพราะมีความกังวลเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศ ผลกระทบด้านต่างๆ ก็จึงออกมาเป็นการปลดล็อกเพื่อใช้ทางการแพทย์ สิ่งที่สังคมคุยกันตอนนี้ เราคุยกันที่ประชุมแล้ว
ตอนนี้ พ.ร.บ.กัญชา อยู่ในชั้นพิจารณาของคณะกรรมาธิการ น่าจะเสร็จเดือนสิงหา สิ่งที่เกิดขึ้นในสังคม เขาต้องเอาไปร่างเป็นกฎหมายแน่นอน คณะกรรมาธิการ มีทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน มีผู้ทรงคุณวุฒิ เราก็เร่งออก ระหว่างนั้น ก็ใช้ประกาศของหน่วยงานมาก่อน แล้วที่ใครมาบอกว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์ อย่าไปดูแคลน เพราะตอนนี้ มีการดำเนินคดีกันแล้ว
จับตา 18 ก.ค. เคทีถกบีทีเอส ปม รถไฟฟ้าสายสีเขียว ชี้ไม่น่าได้ข้อสรุป
บริษัทเคทีเตรียมเข้าถกกับบีทีเอสในวันที่ 18 ก.ค. นี้เพื่อหารือปม รถไฟฟ้าสายสีเขียว ชี้ไม่น่าได้ข้อสรุปในรอบเดียว ด้าน กทม. ขอ อสส. เปิดสัญญา
นายธงทอง จันทรางศุ ประธานบอร์ดบริษัทกรุงเทพธนาคม (เคที) เปิดเผยว่า บอร์ดเคที ได้ส่งหนังสือถึง บริษัทบีทีเอสซี เพื่อเชิญมาร่วมการเจรจาการแก้ไขปัญหาหนี้สินค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย โดยวางกรอบการเจรจา เรื่องค่าใช้จ่ายการจ้างเดินรถ วิธีการคำนวณต้นทุนค่าใช้จ่ายเพื่อสะท้อนค่าจ้างเดินรถ เป็นต้น บริษัท บีทีเอสซี ตอบรับและกำหนดวันเจรจาหารือร่วมกันในวันที่ 18 ก.ค.นี้ เวลา 16.30 น. ที่บริษัท กรุงเทพธนาคม (เคที) ถนนรามคำแหง ทั้งนี้การเจรจาครั้งเดียวไม่น่าจะได้ข้อสรุป คาดว่าจะมีการเจรจาต่อเนื่องอีกหลายครั้ง
ขณะที่นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ได้เปิดเผยถึงกรณีปัญหา รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ที่เป็นปัญหาความขัดแย้งกันมานาน ว่า การแก้ไขปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ที่ต้องการปลดล็อกสัญญาจ้างการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ส่วนต่อขยาย ช่วงที่ 1 สะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่-บางหว้า และช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินค่าจ้างเดินรถโดยทางบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือเคที ซึ่งเป็นคู่สัญญากับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ บีทีเอสซี อยู่ระหว่างการนัดเจรจากับบีทีเอสซี เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินดังกล่าว
นายต่อศักดิ์กล่าวว่า อีกเรื่องคือการเปิดเผยสัญญาการจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายทั้ง 2 ช่วงให้ประชาชนรับทราบ จากเดิมสัญญาระบุห้ามมีการเปิดเผยต่อสาธารณะ โดยที่ประชุมบอร์ดเคที มีนายธงทอง จันทรางศุ เป็นประธาน วันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา มีมติว่า การที่เคทีเปิดเผยรายละเอียดสัญญาให้ กทม.รับทราบในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ย่อมมีสิทธิ
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง